จึโตะเมะภาวนาวิงวอนให้การแพร่ระบาดของ โควิด-19 ยุติลง ในเดือนกุมภาพันธ์

2022/2/12

 เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ โบสถ์ศูนย์กลางศาสนาเทนรีเคียวจัดให้มีการปฏิบัติจึโตะเมะภาวนาวิงวอนขึ้น ณ พระตำหนักของพระผู้เป็นเจ้าโอะยะงะมิ

 การปฏิบัติจึโตะเมะนี้จัดขึ้นเพื่อภาวนาให้การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ยุติลงและอาการของผู้ติดเชื้อไวรัสหายเป็นปกติ ผู้เลื่อมใสศรัทธาทั้งหลายร่วมภาวนาเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันเพื่อที่จะได้รับพรพิทักษ์คุ้มครองจากพระผู้เป็นเจ้าโอะยะงะมิ โบสถ์ศูนย์กลางฯ ได้จัดจึโตะเมะนี้มาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เดือนเมษายนของปีที่แล้ว ซึ่งจัดให้มีขึ้น ณ พระตำหนักของพระผู้เป็นเจ้า ตั้งแต่เวลา 12.00 น. วันที่ 1 ของทุกเดือน

 ในวันนั้น ทางโบสถ์ศูนย์กลางฯ ได้จำกัดจำนวนผู้ที่เข้าร่วมสักการะภายในห้องโถงสักการะเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 และจัดเตรียมเก้าอี้ม้านั่งที่ลานหน้าห้องโถงสักการะทิศใต้

 เวลา 12.00 น. เริ่มปฏิบัติจึโตะเมะ โดยมีท่านไดสุเกะ นะคะยะมะทำหน้าที่ตีไม้กรับ และอาจารย์โยะอิชิโร มิยะโมะริทำหน้าที่นับจำนวนครั้งในการปฏิบัติจึโตะเมะ

 ก่อนที่จะปฏิบัติจึโตเมะ มีคำกล่าวจากอาจารย์มิยะโมะริ เป็นประธานคณะกรรมการฝ่ายปกครองภายในแห่งศาสนาเทนรีเคียว

 ก่อนอื่น อาจารย์มิยะโมะริกล่าวว่า ในบทที่ 10 เรื่อง “ประตูเปิดเพื่อมวลมนุษยชาติ” ของหนังสือ “พระชีวประวัติของโอะยะซะมะ” ได้บันทึกรายละเอียดของสถานการณ์ก่อนที่โอะยะซะมะพรางร่างกายไปเมื่อ 26 ค่ำ เดือนอ้าย พ.ศ. 2430 ซึ่งอ่านแล้วได้รับรู้ถึงสถานการณ์ที่ตึงเครียดจากการโต้ตอบระหว่างโอะยะซะมะกับท่านซิมบะซะระองค์แรก

 เราได้รับรู้ว่า จึโตะเมะในวันนั้น มีคนเล่นเครื่องดนตรีไม่ครบจำนวน คือไม่ใช่จึโตะเมะอย่างสมบูรณ์แบบที่โอะยะซะมะได้สอนไว้ แต่โอะยะซะมะได้ฟังเสียงดนตรีอันเบิกบานอยู่อย่างพึงพอใจ อาจารย์จึงยกประเด็นขึ้นว่า โอะยะซะมะพึงพอใจเรื่องอะไร ซึ่งคิดว่าพึงพอใจต่อการตัดสินใจและการปฏิบัติตนของท่านซิมบะซะองค์แรก ที่ได้ตอบรับคำตรัสว่า “ถึงมีกฎหมายก็ตาม ความแน่วแน่ใจเป็นสิ่งสำคัญที่สุดนะ” และ “ต้องซื้อความสัตย์จริงของข้าฯ ด้วยความสัตย์จริงของเจ้านะ” (โอะซะซิซุ วันที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2430) เพราะฉะนั้น การที่เราจะทำได้ดีหรือไม่ดี มีสถานการณ์และสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมหรือไม่เหมาะสมนั้นไม่ใช่ประเด็นสำคัญ โอะยะซะมะคงพึงพอใจต่อความตั้งใจแน่วแน่และการปฏิบัติจริงของเราอย่างแน่นอน

 จากนั้น อาจารย์ได้ชี้แจงว่า ด้วยการที่เราปฏิบัติจึโตะเมะภาวนาวิงวอนตั้งแต่เมษายนของปีที่แล้ว ทำให้แต่ละคนมีการสวดมนต์ภาวนาวิงวอนในทุกวัน แต่อย่างไรก็ตาม ข้าพเจ้าคิดว่าตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่ต้องมีความตั้งใจแน่วแน่เพื่อก้าวไปสู่ขั้นต่อไป นั่นก็คือการสร้างความสัมพันธ์ทางจิตใจกับคนที่มีความห่างเหินจากสถานการณ์โควิด-19 ให้กลับคืนมานั่นเอง สำหรับผู้เลื่อมใสศรัทธาแล้ว ต้องกลับมาทำการช่วยเหลือผู้คนอีกครั้ง ข้าพเจ้าเชื่อว่าหากมีความตั้งใจแน่วแน่แล้ว จะมีอะไรงอกงามขึ้นมาจากสถานการณ์ที่ยากลำบาก เพราะเหตุที่เราอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ จึงต้องทำการช่วยเหลือผู้อื่นในรูปแบบที่ตัวเองสามารถทำได้ในตอนนี้ ฉะนั้นขอให้พวกเราปฏิญาณว่าจะปฏิบัติตามนั้นและทำจึโตะเมะภาวนาวิงวอนร่วมกันต่อไป