จึโตะเมะภาวนาวิงวอนให้การแพร่ระบาดของโควิด-19 ยุติลง ในเดือนมกราคม

　เมื่อวันที่ 5 มกราคม โบสถ์ศูนย์กลางศาสนาเทนรีเคียวจัดให้มีการปฏิบัติจึโตะเมะภาวนาวิงวอนขึ้น ณ พระตำหนักของพระผู้เป็นเจ้าโอะยะงะมิ

　การปฏิบัติจึโตะเมะนี้จัดขึ้นเพื่อภาวนาให้การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ยุติลงและอาการของผู้ติดเชื้อไวรัสหายเป็นปกติ ผู้เลื่อมใสศรัทธาทั้งหลายร่วมภาวนาเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันเพื่อที่จะได้รับพรพิทักษ์คุ้มครองจากพระผู้เป็นเจ้าโอะยะงะมิ โบสถ์ศูนย์กลางฯ ได้จัดจึโตะเมะนี้มาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เดือนเมษายนของปีที่แล้ว ซึ่งจัดให้มีขึ้น ณ พระตำหนักของพระผู้เป็นเจ้า ตั้งแต่เวลา 12.00 น. วันที่ 1 ของทุกเดือน

　ในวันนั้น ทางโบสถ์ศูนย์กลางฯ ได้จำกัดจำนวนผู้ที่เข้าร่วมสักการะภายในห้องโถงสักการะเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 และจัดเตรียมเก้าอี้ม้านั่งที่ลานหน้าห้องโถงสักการะทิศใต้

　เวลา 12.00 น. เริ่มปฏิบัติจึโตะเมะ โดยมีท่านไดสุเกะ นะคะยะมะทำหน้าที่ตีไม้กรับ และอาจารย์เซนสุเกะ นะคะตะ ทำหน้าที่นับจำนวนครั้งในการปฏิบัติจึโตะเมะ

◇

　ก่อนที่จะปฏิบัติจึโตเมะ มีคำกล่าวจากอาจารย์นะคะตะ เป็นประธานคณะกรรมการฝ่ายปกครองแห่งศาสนาเทนรีเคียว

　ในตอนต้น อาจารย์นะคะตะได้กล่าวว่า หลังจากที่เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธ์ใหม่ได้แพร่ระบาดไปทั่วโลก เวลาก็ผ่านมา 2 ปีแล้ว เรายังคงอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่แน่นอนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทำให้รู้สึกว่าต้องรอดพ้นจากสถานการณ์นี้ให้ได้ แต่ไม่มีใครรู้เลยว่า หลังจากโควิด-19 ยุติลงแล้ว เราจะกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปรกติหรือไม่ และโลกนี้จะเปลี่ยนไปอย่างไร

　ในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 ศาสนาเทนรีเคียวมีข้อจำกัดต่างๆ และถูกขัดขวางการทำกิจกรรม อาจารย์นะคะตะจึงได้กล่าวถึงเรื่อง “การกลับคืนสู่สภาพเดิม” ที่ท่านซิมบะซิระองค์ที่ 2 ได้แถลงหลังสงครามโลก  เพื่อกลับสู่สภาพเดิมที่โอะยะซะมะได้สอนไว้ อาจารย์กล่าวว่า ท่านซิมบะซิระได้ดำเนิน “การกลับคืนสู่สภาพเดิม” ก็คงเป็นเพราะอยากให้เราถือเอาสงครามที่เป็นเหตุการณ์ยิ่งใหญ่นั้นเป็นบทเรียนสำหรับตัวเองที่พระผู้เป็นเจ้าทรงแสดงให้เห็น และถือเป็นโอกาสที่จะทำให้จิตใจของตนเจริญเติบโต โดยนำคำสอนของโอะยะซะมะ มาลงมือปฏิบัติจริงและก้าวเดินตามหนทางที่จะมุ่งไปสู่การช่วยเหลือผู้คน

　นอกจากนี้ อาจารย์ยังสั่งสอนอีกว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 ก็เป็นเหตุการณ์ของโลกเช่นเดียวกัน แต่คิดได้ว่าเป็นโอกาสที่ทำให้เรามีการเจริญเติบโตทางด้านจิตใจ จากนั้นอาจารย์นำโอะฟุเดะซะคิ 2 บท คือ “ต่อแต่นี้ข้าฯ จะลงมือทำทั่วทั้งโลกนี้ ให้เป็นโลกที่เปี่ยมไปด้วยความผาสุกเบิกบานใจ” (๑๐-103) “พวกเจ้าจงไตร่ตรองให้ดีว่า สภาพทางสายนี้ มีความเกี่ยวข้องกับตัวเองด้วย” (๑๐-104) มากล่าวว่า ชีวิตอันผาสุกเบิกบานใจไม่ได้เกิดขึ้นเอง แต่สร้างขึ้นได้โดยแต่ละคนพยายามไขว่คว้าหา

　ตอนท้าย อาจารย์ได้กล่าวว่า หากเราถือเอาการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งเป็นเหตุการณ์ใหญ่นี้ เป็นเรื่องของตัวเองและลงมือปฏิบัติจริงตามหนทางแห่งการเจริญเติบโตทางด้านจิตใจได้แล้ว ข้าพเจ้าเชื่อว่าพระผู้เป็นเจ้าจะทรงแสดงพรพิทักษ์คุ้มครองให้โควิด-19 ยุติลง จึงขอให้พวกเราปฏิญาณว่าจะปฏิบัติตามนั้นและทำจึโตะเมะภาวนาวิงวอนร่วมกันต่อไป